ศัลยกรรมตาสองชั้น คืออะไร?

การศัลยกรรมตาสองชั้น คือ การผ่าตัดที่บริเวณเปลือกตาบนเพื่อสร้างรอยพับหรือเส้นชั้นตาที่มีความสวยงาม คมชัดและรับเข้ากับรูปตาได้อย่างเหมาะสม เพื่อทำให้ดวงตาดูกลมโต สดใส ช่วยเพิ่มเสน่ห์และความมั่นใจให้กับเจ้าของดวงตาได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันมีเทคนิคการทำศัลยกรรมตาสองชั้นที่ได้รับความนิยมอยู่ด้วยกัน 2 เทคนิคหลักๆ ได้แก่ การศัลยกรรมตาสองชั้นแบบเย็บจุด และ การศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดเปลือกตา (กรีดสั้นและกรีดยาว) ซึ่งมีข้อดี-ข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้แพทย์อาจใช้เทคนิคอื่นๆ ร่วมด้วยเพื่อทำให้เส้นชั้นตาใหม่ดูคมชัดและสวยงามเป็นธรรมชาติ เช่น การตัดแต่งผิวเปลือกตาและไขมันส่วนเกิน การเปิดหัวตา เปิดหางตา การปรับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตา ฯลฯ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาชั้นตาอย่างละเอียดและคำนึงถึงความต้องการของคนไข้เป็นสำคัญเพื่อเลือกเทคนิคการทำตาสองชั้นที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมมากที่สุดในแต่ละเคส

การทำตาสองชั้น มีเทคนิคไหนบ้าง? ศัลยกรรมตามีกี่แบบ

ในปัจจุบัน มีเทคนิคการทำตาสองชั้นหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธีหลักๆ ได้แก่ การทำตาสองชั้นแบบเย็บจุด และการทำตาสองชั้นแบบกรีดเปิดแผล โดยแต่ละเทคนิคเหมาะสำหรับใช้แก้ไขปัญหาชั้นตาที่แตกต่างกันไป ดังนี้

การทำตาสองชั้นแบบเย็บจุด

เป็นการทำตาสองชั้นโดยไม่มีการกรีดเปิดแผลที่เปลือกตาบนแต่แพทย์จะกำหนดเส้นชั้นตาใหม่ด้วยการเย็บจุดประมาณ 3-5 จุดที่เปลือกตาบน และใช้ไหมเย็บระหว่างจุดเพื่อสร้างรอยพับชั้นตาที่เป็นธรรมชาติ การทำตาสองชั้นเทคนิคนี้เหมาะกับเคสที่อายุยังน้อย ผิวเปลือกตาไม่หนาและไขมันเปลือกตาน้อย ข้อดีของเทคนิคนี้คือ รอยแผลเล็ก ลดการบวมช้ำ และชั้นตาใหม่เข้าที่ไว

การทำตาสองชั้น เทคนิคกรีดสั้น

โดยแพทย์จะทำการกรีดเปิดแผลขนาดเล็ก ประมาณ 3-5 มม. ที่บริเวณเปลือกตาบน และทำการปรับแต่งโครงสร้างชั้นตาที่เหมาะสมขึ้นมาใหม่ จากนั้นจึงเย็บล็อกชั้นตาเป็นขั้นตอนสุดท้าย การทำตาสองชั้นเทคนิคกรีดสั้นเหมาะกับเคสที่อายุยังน้อย หรือผู้ที่มีปัญหาผิวเปลือกตาหย่อน หนังตาตกแค่เพียงเล็กน้อยซึ่งต้องการผลลัพธ์หลังการทำตาสองชั้นที่ชัดเจนกว่าเทคนิคเย็บจุด

การทำตาสองชั้น เทคนิคกรีดยาว

แพทย์กรีดเปิดแผลตั้งแต่ช่วงหัวตาไปจนถึงหางตา เพื่อให้สามารถปรับโครงสร้างและเย็บชั้นตาได้ตลอดแนว เหมาะกับเคสที่ต้องแก้ไขปัญหาชั้นตาเยอะ เช่น ชั้นตาไม่เท่ากัน ตาสองชั้นหลบใน เปลือกตาหย่อน หนังตาตกเนื่องจากมีผิวเปลือกตาและไขมันเปลือกตาหนา ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ฯลฯ ข้อดีของเทคนิคกรีดยาว คือ เส้นชั้นตาคมชัดได้อย่างถาวร ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวเปลือกตาหย่อนหรือหนังตากลับมาตกซ้ำได้ในอนาคต แต่เนื่องจากต้องกรีดรอยแผลยาว จึงอาจทำให้มีรอยบวมช้ำมาก ใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่าเทคนิคอื่นๆ

การตัดสินใจเลือกเทคนิคทำตาสองชั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งปัญหาชั้นตาที่ต้องแก้ไข งบประมาณ ความต้องการ และความคาดหวังหลังเข้ารับการรักษาของคนไข้ จึงควรเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินปัญหาชั้นตาและออกแบบการรักษาร่วมกันอย่างละเอียด

สรุปควรทำตาสองชั้น ขอนแก่นที่ไหนดี

การทำศัลยกรรมตาสองชั้น เป็นหัตถการที่ช่วยปรับแต่ง และแก้ไขความบกพร่องที่บริเวณเปลือกตาบนได้อย่างครอบคลุม ทั้งปัญหาชั้นตาที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ความงาม เช่น ตาชั้นเดียว ตาตี่ ชั้นตาหลบใน หนังตาตก เปลือกตาหย่อน ตลอดไปจนถึงปัญหาชั้นตาที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ลืมตาไม่สุด ภาวะเปลือกตาหย่อน หนังตาตกรุนแรงจนทำให้การมองเห็นลดลง เพื่อผลลัพธ์หลังการทำตาสองชั้นที่เนียนสวยเป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัย ควรเลือกทำตาสองชั้น ขอนแก่น กับคลินิกเสริมความงามที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน ดำเนินการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูง และมีการรับประกันติดตามผลหลังการรักษา สำหรับชาวขอนแก่นที่สนใจทำตาสองชั้น หรือปรึกษาปัญหาชั้นตาอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลหรือจองคิวเข้ารับการรักษาที่ วันดี คลินิก สาขาขอนแก่น หรือแอดไลน์ @WandeeClinic เพื่อสอบถามข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ปัญหาหนังตาตก คืออะไร

ปัญหาหนังตาตก คือ ภาวะที่ผิวหนังตั้งแต่บริเวณใต้ท้องคิ้วจนถึงขอบล่างของเปลือกตาบนมีความหย่อนคล้อยและตกลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติ หนังตาตกไม่ทำให้เจ็บปวดแต่จะทำให้รูปตาดูเล็กและแคบลง มองเห็นลูกตาดำได้ไม่เต็มวงเหมือนอย่างที่เคย ปัญหาหนังตาตก เปลือกตาหย่อนอาจเกิดขึ้นได้พร้อมกันทั้ง 2 ข้าง หรือในบางรายอาจมีปัญหาหนังตาตกข้างเดียวจนทำให้ตา 2 ข้างมีขนาดเล็ก-ใหญ่ ไม่เท่ากัน ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความงาม และอาจรบกวนการมองเห็นในผู้ที่มีภาวะหนังตาตกในระดับรุนแรง

แก้หนังตาตก ขอนแก่น ต้องเลือกคลินิกแบบไหน

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการแก้หนังตาตก ขอนแก่น คือ การเลือกคลินิกเสริมความงามที่ปลอดภัย ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ มีเลขอนุญาติที่ถูกต้อง น่าเชื่อถูก ทั้งยังต้องมีแพทย์เฉพาะทางโดยตรง นอกจากนั้นต้องใช้ยาหรือเครื่องมือที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐานเพื่อช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยต่อตัวผู้เข้ารับบริการเอง โดยควรพิจารณาเลือกคลินิกเสริมความงามแก้หนังตาตก ขอนแก่น ดังนี้

• คลินิกเสริมความงามได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักแสดงไว้อย่างชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้ สภาพภายในและภายนอกคลินิกต้องมีความสะอาด มีแสงสว่างเพียงพอ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้มาตรฐานและครบครัน
• แพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญด้านการศัลยกรรมตาโดยเฉพาะ มีการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาได้อย่างละเอียด แม่นยำ และสามารถใช้เทคนิคศัลยกรรมตาได้หลายเทคนิค ช่วยแก้ไขปัญหาของผู้เข้ารับบริการแต่ละรายได้อย่างเหมาะสม
• มีรีวิวการแก้หนังตาตก ขอนแก่น จากผู้เข้ารับบริการตัวจริง รีวิวมีความน่าเชื่อถือ ไม่มีการแต่งภาพหรือรีทัชภาพเพิ่มเติม โดยควรเลือกดูรีวิวร่วมกันจากหลายๆ ช่องทางทั้งรีวิวแก้หนังตาตกของคลินิก เว็บบอร์ดศัลยกรรม และ Social media อื่นๆ
• มีการรับประกันผลหลังการรักษาและติดตามดูแลอย่างสม่ำเสมอ คลินิกเสริมความงามที่ดีจะต้องมีการรับประกันผลการรักษารวมถึงมีการนัดติดตามผลอยู่เป็นระยะจนกว่าร่างกายจะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้เข้ารับบริการจะได้รับการดูแลรักษาที่ดีและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาในภายหลัง
• ทีมแพทย์ต้องได้รับการเทรนนิ่ง อัพเดทสกิลใหม่ ๆ อยู่ตลอด เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อให้การรักษาผู้ที่มาใช้บริการได้ผลลัพธ์ตามต้องการมากขึ้น ไม่ว่าจะเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการประเมินเคส การให้คำปรึกษา การดูแลรักษา และการติดตามผลการรักษาให้เป็นไปในทางที่ดียิ่งขึ้น

มีปัญหาหนังตาตก เปลือกตาหย่อน แต่ยังไม่มั่นใจว่าควรเลือกคลินิกไหนดี สามารถเข้ามารับคำแนะนำเพิ่มเติมและวางแผนแก้หนังตาตก ขอนแก่น ร่วมกันกับแพทย์ผู้ดูแลด้านการศัลยกรรมตาโดยเฉพาะได้ที่วันดี คลินิก (Wandee Clinic) สาขาขอนแก่น เราคือคลินิกเสริมความงามที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากกระทรวงสาธารณสุขและได้รับความไว้วางใจจากผู้เข้ารับบริการตัวจริงเป็นจำนวนมาก ดูแลทุกขั้นตอนโดยแพทย์ผู้มากประสบการณ์และมีเทคนิคแก้ไขปัญหาหนังตาตกที่ครบครัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการช่วยสร้างผลลัพธ์ดวงตาที่กลมสวยสดใส หนังตาไม่กลับมาตกซ้ำ

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เกิดจากอะไร

ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากปัจจัยภายในร่างกายที่ควบคุมได้ยาก และปัจจัยภายนอก ซึ่งโดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยมีสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ดังนี้

• ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตั้งแต่กำเนิด

  เป็นภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของร่างกายแต่กำเนิด ทั้งจากสาเหตุที่ได้รับการส่งต่อทางพันธุกรรม ความผิดปกติของเส้นประสาทสมอง และอาจเกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เนื่องจากกล้ามเนื้อตาไม่พัฒนาตั้งแต่แรกเกิด ทำให้เด็กไม่มีรอยพับชั้นตา ลืมตาไม่ขึ้นหรือลืมตาได้ไม่เต็มที่ หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีอาจส่งผลให้เด็กมีภาวะตาขี้เกียจหรือสายตาเอียงได้ในระยะยาว

• ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเมื่ออายุมากขึ้น

  โครงสร้างผิวเปลือกตาและกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ยกเปลือกตาเข้าสู่สภาวะเสื่อมถอย ขาดความยืดหยุ่น ทำให้ออกแรงยกเปลือกตาได้น้อยลง ส่งผลให้ขอบล่างของเปลือกตาบนตกลงมาคลุมทับตาดำมากขึ้นเรื่อยๆ จนบดบังทัศนวิสัย ผู้สูงอายุโดยส่วนใหญ่จึงมักประสบปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น มองเห็นได้แคบลงและติดนิสัยเลิกหน้าผาก ย่นคิ้วและขยี้ตาอยู่เป็นประจำ

• กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

  เช่น การใช้สายตาหนักตลอดทั้งวัน การติดนิสัยขยี้ตาหรือถูตาแรงๆ การเบิ่งตา การใส่-ถอดคอนแทคเลนส์บ่อยๆ ฯลฯ พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้กล้ามเนื้อตาถูกยืดออก จนเสียสภาพและไม่สามารถออกแรงยกเปลือกตาได้เหมือนเดิม ทำให้ตาปรือ ลืมตาได้ยากและมีชั้นตาหลายชั้น

• ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหลังประสบอุบัติเหตุบริเวณใบหน้า หรือการผ่าตัดทำตาสองชั้นผิดพลาด

  ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือกล้ามเนื้อตาได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาดูปรือ ลืมตาได้ไม่สุดหรือทำให้ตาทั้งสองข้างมีขนาดไม่เท่ากัน

• ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่เกิดจากโรค Myasthenis gravis

  เป็นภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่เกิดขึ้นจากการหลั่งสารสื่อประสาทผิดปกติทำให้ผู้ป่วยมีภาวะหนังตาตก ลืมตาได้ยาก มองเห็นภาพซ้อน กลอกตาผิดปกติ ฯลฯ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะดีขึ้นเมื่อได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ และนอกจากนี้อาจมีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เกิดขึ้นได้ทั่วทั้งร่างกาย เช่น มีปัญหาเกี่ยวกับการกลืน ลิ้นเกร็งแข็ง สำลักอาหารบ่อย หายใจไม่สะดวก กล้ามเนื้อแขนและขาอ่อนแรง เป็นต้น ผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจากโรค Myasthenis gravis มีความจำเป็นต้องเข้ารับวินิจฉัยและใช้วิธีการรักษาอย่างเหมาะสม เช่น การใช้ยาปรับการหลั่งของสารสื่อประสาทในสมอง ยาสเตียรอยด์ ยากดภูมิคุ้มกันหรือการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด

1. การแก้กล้ามเนื้อตามอ่อนแรง ขอนแก่น ด้วยการบริหารกล้ามเนื้อตา โดยแพทย์จะแนะนำท่าที่ช่วยฝึกความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อยกเปลือกตา เช่น การกลอกตาขึ้น-ลง การมองบน-ล่าง ท่าปรับโฟกัสสายตา ให้คนไข้ฝึกทำเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยแก้ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในระยะเริ่มต้นให้ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
2. การแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงด้วยการผ่าตัดกรีดแผลใต้ท้องคิ้ว โดยแพทย์จะทำการกรีดเปิดแผลที่บริเวณใต้ท้องคิ้ว และเลาะผ่านผิวหนังเพื่อปรับเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อตาด้วยการเย็บตรึงกล้ามเนื้อตาไว้ที่บริเวณท้องคิ้ว รวมถึงทำการตัดแต่งผิวหนัง และไขมันเปลือกตาออกบางส่วน ทำให้กล้ามเนื้อตาออกแรงยกเปลือกตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับเคสที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในระดับปานกลางถึงรุนแรง
3. การแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ขอนแก่น ด้วยการผ่าตัดยกกระชับหน้าผากเอนโดไทน์ แพทย์กรีดเปิดแผลเล็กๆ ที่บริเวณไรผมประมาณ 3-5 จุด จากนั้นสอดกล้องขนาดเล็ก (Endoscope) เข้าไปตามรอยแผล เพื่อผ่าตัดเลาะแยกชั้นเนื้อเยื่อหุ้มกระดูกออกจากกะโหลกศีรษะ แล้วใช้เอนโดไทน์ (Endotine) เกี่ยวและยึดผิวหนังไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ร่วมกับการเย็บยึดกล้ามเนื้อตาให้แข็งแรงมากขึ้น ทำให้คนไข้ลืมตาได้อย่างเต็มที่ ดวงตาดูกลมโต และหน้าผากยกกระชับขึ้น การเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อตาด้วยวิธียกกระชับหน้าผากเอนโดไทน์เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในระดับรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย ริ้วรอยร่องลึกที่ช่วงบนของใบหน้าร่วมด้วย

• วันดี คลินิกสาขาขอนแก่น เป็นคลินิกเสริมความงามที่เปิดดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านการรับรองมาตรฐาน และได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อการรักษาสะอาด ปลอดภัยและได้รับมาตรฐานระดับสากล
• ดูแลทุกขั้นตอนโดยแพทย์ผู้มากประสบการณ์ ด้านการศัลยกรรมดวงตาโดยเฉพาะ แพทย์ประเมินโครงสร้างชั้นตาอย่างละเอียด และวางแผนแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงด้วยเทคนิคที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้เข้ารับบริการแต่ละราย ช่วยให้ดวงตากลับมากลมโตสดใส ลืมตาได้เต็มที่และดูสวยหวานเป็นธรรมชาติ
• มีการดูแลติดตามผลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและความพึงพอใจสูงสุดของผู้เข้ารับบริการ