อัพเดทความรู้ Juvederm filler 2024 เติมจุดไหนปังที่สุด

Juvederm filler 2024

Juvederm filler 2024 สุดยอดฟิลเลอร์เติมเต็มผิวจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานเพราะ Juvederm filler เป็นฟิลเลอร์คุณภาพพรีเมียมและยังใช้เทคโนโลยีการผลิตที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ช่วยยกกระชับและเติมเต็มชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จาก วันดี คลินิก ขอนแก่น (Wandee Clinic) ขอชวนทุกคนมาอัพเดทความรู้เกี่ยวกับ Juvederm filler 2024 กันอย่างละเอียด Juvederm filler ดีจริงไหม? Juvederm filler 2024 มีกี่รุ่น? Juvederm ฉีดจุดไหนได้บ้าง ราคาเท่าไหร่? มาดูทุกเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์ Juvederm กันได้เลย

สารบัญ

Juvederm filler 2024 คืออะไร

Juvederm filler คือ ฟิลเลอร์คุณภาพพรีเมียมส่งตรงจากประเทศสหรัฐอเมริกา วิจัยและพัฒนาโดยบริษัท Allergan ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านเวชศาสตร์ความงามระดับโลก ที่ได้รับความไว้วางใจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในระดับนานาชาติ มาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี โดยฟิลเลอร์ Juvederm เป็นฟิลเลอร์กลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid:HA) ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยสูง สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ 100% ไม่ก่อให้เกิดการตกค้างสะสมภายในร่างกาย และผ่านการรับรองมาตรฐานจาก US-FDA และ อย. ประเทศไทย

ความโดดเด่นของ Juvederm filler  คือ มีฟิลเลอร์ให้เลือกใช้หลายรุ่น ได้แก่ Juvederm Ultra plus XC, Juvederm voluma, Juvederm volift, Juvederm Volite, Juvederm volbella และ Juvederm Volux แพทย์สามารถเลือกใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความเหมาะสม กับสภาพปัญหาผิวแต่ละตำแหน่งได้อย่างละเอียด ช่วยสร้างผลลัพธ์หลังการรักษาได้อย่างชัดเจน หลังฉีด Juvederm filler  สามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 12-24 เดือน

Juvederm filler ดีไหม?

Juvederm filler 2024 ดีไหม? แตกต่างไปจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร? ตอบได้เลยว่า Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับ และเติมเต็มผิวได้เป็นอย่างดี ด้วยการใช้ฟิลเลอร์กลุ่ม HA ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีเฉพาะถึง 2 ชนิด ได้แก่

  • Hylacross Technology ที่ทำให้ฟิลเลอร์ Juvederm มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้เป็นอย่างดี เนื้อฟิลเลอร์มีความอิ่มฟู และมีค่าความยืดหยุ่นสูง สามารถเติมเต็มชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทนต่อการขยับได้ดี
  • Vycross Technology เป็นอีกเทคโนโลยีเฉพาะที่โดดเด่นของ Juvederm filler ทำให้เนื้อฟิลเลอร์สามารถยึดเกาะกับชั้นผิวได้อย่างแนบแน่น โดดเด่นด้านการยกกระชับผิวให้เฟิร์มกระชับ เหมาะกับการใช้ฉีดเพื่อเพิ่มปริมาตร เติมวอลลุ่มให้กับชั้นผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ หลังฉีดไม่เป็นก้อนแข็ง ไม่ทำให้ผิวเป็นรอยบวม  

นอกไปจากนี้ Juvederm ยังมีให้เลือกใช้หลายรุ่น ทุกรุ่นมีส่วนผสมของยาชา (Lidocane) มาด้วยในตัว เพื่อช่วยระงับความรู้สึกปวดในระหว่างขั้นตอนการรักษา จึงไม่จำเป็นต้องแปะ หรือฉีดยาชาก่อนเริ่มขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

filler Juvederm 2024 มีกี่รุ่น ฉีดตรงไหนได้บ้าง

ปัจจุบันฟิลเลอร์ Juvederm ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. ประเทศไทยมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 รุ่น (ข้อมูลอัพเดตปี 2024) โดยแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป และเหมาะกับการฉีดในตำแหน่งต่าง ๆ ดังนี้

  1. Juvederm Ultra plus XC เป็นฟิลเลอร์ Juvederm ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Hylacross ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง อุ้มน้ำได้ดี เมื่อฉีดเข้าผิวแล้วมีความอิ่มฟูสูง เหมาะสำหรับใช้ฉีดในบริเวณที่ต้องการเติมเต็มผิวให้อิ่มฟู เพิ่มวอลลุ่มให้กับผิว เช่น ขมับ ริมฝีปาก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
  2. Juvederm Voluma ฟิลเลอร์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Vycross ฟิลเลอร์มีโมเลกุลขนาดใหญ่ เนื้อฟิลเลอร์แข็งและอิ่มฟูในระดับปานกลาง เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวแล้วมีความยืดหยุ่นสูงทนต่อการขยับ เหมาะสำหรับการใช้ฉีดบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ขมับและคาง
  3. Juvederm Volift ฟิลเลอร์ Juvederm อีกหนึ่งรุ่นที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Vycross เนื้อฟิลเลอร์เนียน มีความนิ่มระดับปานกลาง คงตัวได้ดีฉีดแล้วไม่ไหลย้อยไปตำแหน่งอื่นๆ เหมาะกับตำแหน่งที่ผิวบอบบาง เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ใต้ตา โดยแพทย์นิยมใช้ฉีดเพื่อเก็บรายละเอียดผิวชั้นตื้น ช่วยให้งานผิวดูเรียบเนียนสมบูรณ์แบบ
  4. Juvederm Volite ฟิลเลอร์ Juvederm ที่มีขนาดโมเลกุลที่เล็กและเนียนละเอียด ฟิลเลอร์เป็นเนื้อเจลบางเบาฉีดแล้วกลืนเข้ากับชั้นผิวได้อย่างเรียบเนียน เหมาะกับการฉีดเพื่อเติมเต็มผิวในชั้นตื้น ๆ เติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น ริ้วรอยใต้ตา กระชับรูขุมขน ช่วยปรับให้ผิวชุ่มชื้นสุขภาพดี แต่ไม่เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อเพิ่มวอลลุ่ม
  5. Juvederm Volbella ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและมีขนาดโมเลกุลที่เล็กละเอียดมากที่สุดในรุ่น เหมาะกับการฉีดผิวในบริเวณที่บอบบาง เช่น ริ้วรอย รอยพับใต้ตา ริ้วรอยหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ช่วยปรับผิวให้เต่งตึงขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์ไม่จับตัวเป็นก้อนแข็ง
  6. Juvederm Ultra XC ฟิลเลอร์ Juvederm ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Hylacross ฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นเนื้อเจลเนียนนุ่ม มีความอิ่มฟูและอุ้มน้ำได้ดี ช่วยเติมเต็มผิวให้เรียบเนียนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งเป็นก้อน เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยร่องตื้นตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ร่องใต้ตา ริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก
  7. Juvederm Volux ฟิลเลอร์ Juvederm ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Vycross ฟิลเลอร์มีโมเลกุลขนาดใหญ่ เนื้อฟิลเลอร์แข็งที่สุดในรุ่นที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีเดียวกัน เมื่อฉีดเข้าสู่ชั้นผิวแล้วสามารถปั้นทรงขึ้นรูปได้สวยโดยที่ยังกลืนเข้ากับผิวได้อย่างเรียบเนียนและช่วยยกกระชับผิว เหมาะสำหรับใช้ฉีดเพิ่มปริมาตรผิว เติมเต็มผิวชั้นลึกทั้งบริเวณร่องแก้มชั้นลึก ขมับ และฉีดปรับรูปทรงของคาง

ฟิลเลอร์ Juvederm อยู่ได้นานแค่ไหน

Juvederm filler 2024 สามารถคงผลลัพธ์ใต้ชั้นผิวในระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละรุ่น ดังนี้

  • Juvederm Ultra plus XC อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Juvederm Voluma อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
  • Juvederm Volift อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
  • Juvederm Volite อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
  • Juvederm Volbella อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Juvederm Ultra XC อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
  • Juvederm Volux อยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน

ทั้งนี้ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์ Juvederm สามารถคงอยู่ใต้ชั้นผิวอาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณตัวยาฟิลเลอร์ที่ใช้และเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็ม แก้ไขปัญหาผิวของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่าน นอกจากนี้การดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ของผู้เข้ารับบริการก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้ฟิลเลอร์อยู่ใต้ชั้นผิวได้อย่างยาวนานมากที่สุด

เติม Juvederm filler ราคาเท่าไหร่

โดยทั่วไปราคาของ Juvederm filler จะอยู่ในช่วงประมาณ 8,xxx-18,xxx บาท/cc ขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ Juvederm และปริมาณตัวยาที่ต้องใช้ ทั้งนี้ผู้เข้ารับบริการควรตรวจสอบราคามาตรฐานของ Juvederm filler และเลือกฉีดฟิลเลอร์ Juvederm กับคลินิกที่แจ้งราคาได้อย่างชัดเจน ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ที่มีราคาถูกมากๆ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เถื่อน ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. ประเทศไทยและอาจเสี่ยงทำให้เกิดอันตราย หรือผลข้างเคียงอื่นๆ หลังการฉีดฟิลเลอร์

วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ Juvederm filler

สิ่งสำคัญก่อนการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm คือจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า Juvederm filler ที่คลินิกเลือกใช้เป็นฟิลเลอร์แท้ที่ผลิตโดยบริษัท Allergan และนำเข้าสู่ประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีวิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ Juvederm filler 2024 ดังนี้

  • ตรวจสอบเลข Lot ที่แสดงอยู่บนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด 4 จุด โดยตัวเลขทุกจุดจะต้องตรงกัน สามารถตรวจสอบเลข Lot. กับบริษัท Allergan Thailand ที่เป็นบริษัทผู้นำเข้าได้ รวมถึงต้องมีการระบุวันเดือนปีผลิตและวันหมดอายุเอาไว้อย่างชัดเจน
  • มีเลขที่ใบอนุญาตจาก อย. ประเทศไทย พร้อมเอกสารกำกับภาษาไทยครบถ้วน ถูกต้อง และระบุว่าจำหน่ายและใช้เฉพาะสถานบริการที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่เท่านั้น
  • Juvederm filler ที่คลินิกใช้จะต้องเป็นฟิลเลอร์กล่องใหม่ที่ไม่มีร่องรอยของการแกะหรือถูกใช้งานมาแล้วก่อนหน้า โดยแพทย์จะต้องแกะกล่องฟิลเลอร์ต่อหน้าผู้เข้ารับบริการและยินดีให้ตรวจสอบฟิลเลอร์ก่อนเริ่มขั้นตอนการรักษา  

สรุป

Juvederm filler 2024 ฟิลเลอร์ตัวดังจากสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับในวงการความงามทั่วโลกมายาวนานมากกว่า 30 ปี ด้วยคุณสมบัติความโดดเด่นที่ผลิตด้วย 2 เทคโนโลยีเฉพาะ ได้แก่ Hylacross Technology และ Vycross Technology ทำให้เนื้อฟิลเลอร์ Juvederm มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี มีค่าความยืดหยุ่นคงตัวสูง เมื่อฉีดเข้าชั้นผิวแล้วกลืนเข้ากับผิวได้อย่างเรียบเนียน สร้างงานผิวที่สวยเป็นธรรมชาติ

มีให้เลือกใช้มากถึง 7 รุ่น เหมาะกับการเติมเต็มผิวทั้งผิวชั้นตื้นและผิวชั้นลึก ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ที่บริเวณหน้าผาก ขมับ รอบดวงตา ร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมาก ริมฝีปาก คางและลำคอ หลังฉีดฟิลเลอร์ Juvederm สามารถคงผลลัพธ์ได้นานตั้งแต่ 12-24 เดือน

สำหรับใครที่สนใจอยากฉีดเติมเต็มผิวและต้องการปรึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Juvederm filler สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Wandee Clinic ทุกสาขา เราพร้อมให้คำแนะนำได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และพร้อมให้บริการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ที่ผ่านการฉีดฟิลเลอร์มากกว่าหมื่นเคส

หนัาแรก
โปรโมชั่น
รีวิว
แผนที่