ฉีดโบท็อกซ์ บริเวณไหนได้บ้าง
โบท็อกซ์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ด้านความงามได้หลากหลายบริเวณ ดังนี้
👉 1. การลดเลือนริ้วรอย (ลดรอยย่นจากการแสดงอารมณ์)
- หน้าผาก ลดรอยย่นแนวนอนบริเวณหน้าผากที่เกิดจากการเลิกคิ้ว
- ระหว่างคิ้ว ลดรอยขมวดคิ้ว หรือ “รอยตีนกา” ที่หว่างคิ้ว ช่วยให้ใบหน้าดูผ่อนคลาย ไม่ดุ
- หางตา ลดรอยตีนกาที่กระจายออกมาบริเวณหางตาเวลายิ้มหรือหัวเราะ
- สันจมูก ลดรอยย่นเล็กๆ ที่สันจมูกเวลาย่นจมูก
👉 2. การปรับรูปหน้าและกรอบหน้า
นอกจากการลดริ้วรอย โบท็อกซ์ยังเก่งในเรื่องการปรับโครงสร้างกล้ามเนื้อเพื่อความสวยงาม
- ลดกราม สำหรับคนที่มีปัญหากล้ามเนื้อกราม ใหญ่ ทำให้หน้าดูเหลี่ยมหรือบาน การฉีดโบท็อกซ์จะช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวเป็น V-Shape มากขึ้น
- ลิฟต์กรอบหน้า เป็นเทคนิคการฉีดตื้นๆ บริเวณกรอบหน้าและลำคอ เพื่อยกกระชับผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย ให้กรอบหน้าดูคมชัดขึ้น
👉 3. การแก้ไขจุดบกพร่องอื่นๆ
- ปีกจมูก ฉีดเพื่อรัดแกนจมูกและลดการขยับของปีกจมูกเวลายิ้ม ทำให้จมูกดูสมส่วนขึ้น
- ลดรอยย่นที่คาง คลายกล้ามเนื้อคางที่หดเกร็งจนมีลักษณะเหมือน “ผิวส้ม”
- ยกมุมปาก ฉีดเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ดึงมุมปากลง ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส ไม่บึ้งตึง
👉 4. การรักษาภาวะอื่นๆ
- ลดเหงื่อ โดยการฉีดบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ หรือฝ่าเท้า เพื่อยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ ช่วยลดเหงื่อและกลิ่นกายได้นาน 6-8 เดือน
- ลดขนาดน่อง คล้ายกับการลดกราม คือฉีดเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อน่องให้ดูเรียวเล็ก
ยี่ห้อโบท็อกซ์ ที่ Wandee Clinic เลือกใช้
Hutox เกาหลี
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Hutox แตกต่างจากโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่นอย่างไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง เหมาะกับใคร อันตรายไหม
Bienox เกาหลี
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Bienox Botox โบท็อกซ์น้องใหม่ เหมาะกับใคร ปลอดภัยมั้ย รวมทุกคำตอบ
Nabota เกาหลี
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Botox Nabota คือ ดีไหม ? ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? พร้อมวิธีดูโบท็อกซ์แท้
Allergan อเมริกา
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Allergan Botox คือ โบท็อกจากอเมริกา คุณภาพอันดับหนึ่ง ปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย
Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสาร “Botulinum Toxin Type A” ซึ่งเป็น โปรตีนบริสุทธิ์ ที่สกัดได้จากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ไม่ใช่พิษร้ายแรงแต่อย่างใด
ซึ่งหากอยากรักษาให้มีความปลอดภัยควร คำนึงถึง 3 อย่างหลักๆ ดังนี้
- ใช้ยาแท้ ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ตรวจสอบได้
- แพทย์มีความเชี่ยวชาญ โดยต้องสามารถวิเคราะ์ใบหน้าและปริมาณยาที่ต้องใช้ได้อย่างแม่นยำ
- คลินิกมีมาตรฐาน โดยสถานที่ต้องมีความสะอาด อุปกรณ์ผ่านการฆ่าเชื้อ และไม่นำกลับมาใช้ซ้ำ
แม้จะเป็น Botulinum Toxin Type A เหมือนกัน แต่เทคโนโลยีการผลิตที่ต่างกัน ทำให้มีรายละเอียดเล็กน้อยที่ต่างกัน ดังนี้
- อเมริกา เป็นแบรนด์ที่มีการวิจัยและใช้มาอย่างยาวนานที่สุด เพราะมีความบริสุทธิ์สูงมาก ตัวยากระจายตัวค่อนข้างแคบและมีความแม่นยำ เหมาะสำหรับการฉีดในจุดที่ต้องการความเป๊ะ เป็นธรรมชาติ
- เกาหลี มีประเทศที่ได้รับความนิยมหลายยี่ห้อทั้งในไทยและเอเชีย เพราะเป็นโบท็อกซ์ที่มี คุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า เพราะพัฒนาคุณภาพคล้ายแบรนด์อเมริกา และบางยี่ห้ออาจให้ผลลัพธ์ที่ไวกว่าเล็กน้อย
- เยอรมัน เป็นโบท็อกซ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องฉีดแบบต่อเนื่องเป็นระเวลานาน ๆ หรือผู้ที่เริ่มมีอาการดื้อยา
- ห้ามนอนราบ ก้มหน้า
- ห้ามโดนความร้อนหนัก ๆ
- ห้ามนวด กด คลึง
ผลข้างเคียงเหล่านี้ “เป็นเพียงชั่วคราว” และจะหายกลับเป็นปกติเมื่อยาหมดฤทธิ์ แต่เพื่อป้องกันปัญหา การเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและใช้ยาแท้จะดีที่สุด
- หญิงตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ Botulinum Toxin หรือส่วนประกอบในยา
- ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
- ผู้ที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่จะฉีด
โบท็อกซ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
โดยทั่วไปโบท็อกซ์จะสามารถคงผลลัพธ์ได้ประมาณ 4-6 เดือน หรืออาจคงผลลัพธ์ได้นานกว่านี้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
- ประเภทการฉีด โดยหากฉีดเพื่อลดริ้วรอย มักจะอยู่ได้ประมาณ 3-5 เดือนเนื่องจากเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็กและมีการขยับบ่อย การฉีดกรามหรือน่อง ส่วนมากจะอยู่ได้ประมาณ 5-8 เดือน เพราะเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่ อาจคลายตัวยากกว่ากล้ามเนื้อมัดเล็ก การฉีดเพื่อลดเหงื่อ ส่วนมากจะอย่ได้ประมาณ 6-7 เดือน
- ยี่ห้อ และปริมาณยาที่ใช้ โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติการกระจายตัวและความบริสุทธิ์ต่างกัน รวมถึงปริมาณยูนิตที่ใช้ ก็ส่งผลต่อระยะเวลาการคงผลลัพธ์ได้เช่นกัน
- การดูแลตัวเองหลังฉีด เพราะหากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ จะเป็นการรักษาผลลัพธ์ของโบท็อกซ์ได้นานยิ่งขึ้น
การเตรียมตัวก่อนฉีดและหลังฉีดโบท็อกซ์
การเตรียมตัวก่อนฉีด
- ✅ งดยาและวิตามินบางชนิด หยุดยากลุ่มต้านการอักเสบ (NSAIDs) เช่น Ibuprofen, Aspirin และวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Vitamin E, น้ำมันปลา (Fish Oil), แปะก๊วย (Ginkgo) อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อลดรอยช้ำ
- ✅ งดแอลกอฮอล์ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
- ✅ งดสครับ ขัดหน้า โดยควรงดการสครับ ขัด หรือนวดหน้าแรงๆ 1-2 วันก่อนทำ
ข้อห้ามและการดูแลตัวเองหลังฉีด
- ❌ ห้ามนอนราบ ก้มหน้า ห้ามนอนราบหรือก้มหน้าต่ำกว่าระดับหัวใจ เป็นเวลา 4 ชั่วโมง หลังฉีด เพื่อป้องกันยาไหลไปในตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
- ❌ ห้ามนวด กด รวมถึงห้ามจับ บีบ นวด หรือกดแรงๆ บริเวณที่ฉีด
- ❌ ห้ามโดนความร้อน งดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความร้อนสูงทุกชนิดเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ เพราะความร้อนจะทำให้โบท็อกซ์สลายตัวเร็ว เช่น ซาวน่า, สตรีม, แช่น้ำอุ่น การทำเลเซอร์ หรือหัตถการอื่นๆ ที่ใช้ความร้อนบนใบหน้า รวมถึงการนั่งหน้าเตาร้อนๆ เช่น หมูกระทะ, ชาบู
- ❌ งดแอลกอฮอล์ การงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- ❌ งดออกกำลังกายหนัก โดยควรงดการออกกำลังกายหนักๆ ที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก 24-48 ชั่วโมง
- ❌ ขยับกล้ามเนื้อ สามารถขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเบาๆ (เช่น ยิ้ม ยักคิ้ว) หลังฉีด 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ยาถูกดูดซึมเข้ากล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
